
ชไนเดอร์ จีเอ็ม ซีฮอร์คส เซ็นต่ออีก 6 ปี
ซีแอตเทิ่ล ซีฮอร์คส์ ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า พวกเขาตัดสินใจที่จะเซ็น จอห์น ชไนเดอร์ ขยายสัญญาออกไปถึงฤดูกาล 2027 หลังจากที่เจ้าตัวสร้างผลงานที่ดีให้กับ เเฟรนไชส์ มาโดยตลอด และนี่คือการตอบแทนผลงาน ตลอดระยะเวลาที่ร่วมงานกันมา 10 กว่าปีที่ทางต้นสังกัดมอบให้กับ ชไนเดอร์
ชไนเดอร์ ในตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของ ซีฮอร์ส ยังเหลือสัญญาเดิมอีก 1 ปีกับทีม แต่สำหรับผลงานที่ตัวเขาเองได้สร้างความสำเร็จไว้ให้กับทีมมาโดยตลอด จึงทำให้ ซีฮอร์คส์ เล็งเห็นถึงความสำคัญที่พวกเขาจะพัฒนาทีมต่อไปภายใต้แผนของ ชไนเดอร์ พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะ ขยายสัญญาของ ชไนเดอร์ ออกไปถึงปีฤดูกาล 2027 หากนับรวมเวลาทั้งหมดที่ ชไนเดอร์ เข้ามารับงานให้กับ ซีฮอร์ส ตั้งแต่ปี 2010 หากสิ้นสุดสัญญา ชไนเดอร์ จะคุม ซีฮอร์คส์ มากถึง 17 ปี และตัวเขาเองก็พร้อมที่จะจารึกเป็นประวัติศาสตร์ไว้ให้กับทีมหลังจากที่ก้าวมาเป็นผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมายภายในช่วงระยะเวลาที่คุมทีมก่อนหน้านี้ 10 ปี
ชไนเดอร์ จีเอ็ม ซีฮอร์คส เซ็นต่ออีก 6 ปี
ถึงแม้ว่า ซีฮอร์คส์ จะปิดฉากซีซั่น 2020 ได้อย่างไม่สวยหรู หลังจากที่ พวกเขาพ่ายใน เกมเพลย์ออฟ ให้กับ แอลเอ แรมส์ และทำให้พวกเขาตกรอบเพลย์ออฟทันที แต่ท่ามกลางสถานการณ์ที่โศกเศร้าและเสียใจของเหล่าบรรดาแฟนบอล พวกเขาก็ต้องดีใจหลังจากที่ต้นสังกัดได้ออกมาประกาศเซ็นสัญญาระยะยาวกับ ชไนเดอร์ โดยที่ โจดี้ อัลเลน เจ้าของทีม ซีฮอร์คส์ เป็นผู้ออกมากล่าวแถลงการณ์เกี่ยวกับสัญญาฉบับใหม่ที่เขามอบให้กับผู้จัดการทั่วไปของทีมกับสัญญาระยะยาวว่า
“ คงไม่มีอะไรที่จะลบล้างความสำเร็จที่ ชไนเดอร์ ได้สร้างให้กับ ซีฮอร์คส์ ตลอดระยะเวลาที่ตัวเขาเองเข้ามาคุมทีม ผมเล็งเห็นองค์กรมีการเปลี่ยนแปลง และวัฒนธรรมที่ดีขึ้น ซึ่งความกระตือรือร้นของพวกเราเกิดขึ้นจากในห้องแต่งตัว นั่นหมายถึงพวกเราสามารถสร้างชัยชนะก่อนที่จะลงสนามด้วยซ้ำ และทั้งหมดก็มาจากการปลุกระดมของ ชไนเดอร์ นับตั้งแต่ที่เขาเป็นผู้จัดการทีมทั่วไปให้กับ ซีฮอร์คส์ ”
“ ผมคิดว่าคงไม่มีอะไรที่จะตอบแทน ชไนเดอร์ มากกว่าสัญญาระยะยาว เพื่อให้เขาวางแผนไล่ล่าความสำเร็จให้กับ ซีฮอร์คส์ ต่อไป และพวกเราก็คาดหวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปได้ด้วยดี และเชื่อมือ ชไนเดอร์ กับการบริหารจัดการทีม ซึ่งที่ผ่านมาตัวเขาเองก็ทำได้ดีอยู่แล้ว ”
ตลอดช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะการเลือกรอบท้ายๆอย่าง เอิร์ล โธมัส, แคม แชนเซลเลอร์, เค.เจ.ไรท์, ริชาร์ด เชอร์แมน, บ็อบบี้ แว็กเนอร์ และ รัสเซลล์ วิลสัน ที่ก้าวขึ้นมาเป็นเสาหลักของแฟรนไชส์ เช่นเดียวกับผู้เล่นที่มีบทบาทสำคัญอย่าง รัสเซลล์ โอคุง, โกลเด้น เทต, มัลคอล์ม สมิธ และ บรูซ เออร์วิ่น รวมถึงการเทรด มาร์ชอว์น ลินช์ และการเซ็นสัญญากับ ไมเคิ่ล เบนเน็ตต์