
ตำนาน NBA “อับดุล – จาบาร์” เผยได้เรียนรู้หลายอย่างจาก “บรู๊ซ ลี”
แฟนๆ บาสเก็ตบอลระดับโลก คงจะคุ้นเคยกับยอดตำนานอย่าง ไมเคิล จอร์แดน, ชาคิล โอนีล, เลอบรอน เจมส์, โคบี้ ไบรอัน และ ชาร์ล บาร์คเล่ย์ แต่ที่เอ่ยมาทั้งหมดทุกสิ่งที่พวกเขายังเทียบไม่ได้กับสุดยอดตำนานแห่งวงการบาส อย่าง คาริม อับดุล-จาบาร์ เจ้าของสถิติทำแต้มมากที่สุดในประวัติศาสตร์บาสเก็ตบอล NBA โดยทำไปถึง 38,387 คะแนนทิ้งห่างอันดับ 2 แบบไม่เห็นฝุ่น ทำไม อับดุล – จาบาร์ กับ บรู๊ซ ลี ถึงมีส่วนเกี่ยวข้องกันได้
ทั้งคุ่อาจจะกล่าวได้ว่ามีความคล้ายกันตรงที่มักจะถูกเหยียดสีผิวตลอด โดยในช่วงยุค 60 – 70 สังคมในสหรัฐอเมริกายังคงมีสิ่งเหล่านี้และทุกคนมองว่าเป็นเรื่องปกติ อับดุล – จาบาร์ เกิดมาเพื่อเป็นนักกีฬาเขาได้สร้างชื่อมาตั้งแต่ยังเป็นนักเรียนแต่บ่อยครั้งที่เขามักจะถูกเรียกว่า “นิกเกอร์” บ่อยครั้งที่เขาต้องทนเก็บเรื่องราวเหล่านี้เอาไว้ จนกระทั่งตอนมหาวิทยาลัย อับดุล – จาบาร์ ต้องการจะลงเล่นในวงการบาส แต่ตอนนั้นมีกฎว่าหากยังเรียนไม่จบมหาวิทยาลัยไม่สามารถเข้ารับการดราฟท์เข้าสู่ทีมได้
ในตอนนั้นชื่อของ บรู๊ซ ลี กำลังเป็นที่โด่งดังในฐานะนักแสดง ประกอบ อับดุล – จาบาร์ เป็นนักศึกษาคณะศิลปศาสตร์ เอกวิชาประวัติศาสตร์ เขาจึงสนใจในเรื่องของศิลปะการต่อสู้ และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทั้งคู่ได้พบกัน อับดุล – จาบาร์ เปิดเผยว่า “บรู๊ซ ลี ได้สอนอะไรหลายอย่างให้กับ ตอนนั้นผมยังเป็นนักศึกษาอยู่ ความสัมพันธ์พัฒนาไปไวมาก เขาสอนเคล็ดลับบางอย่างให้กับผม และทำให้ผมอยู่ในวงการบาสเกตบอล ได้เกิน 20 ปี โดยที่แทบจะไม่มีอาการบาดเจ็บเลย เขาสอนให้ผมเรียนรู้ในเรื่องของความยืดหยุ่น สอนให้ผมรู้จักการยืดกล้ามเนื้อ ยืดเส้นยืดสายทุกครั้ง นี่แหละคือเคล็ดลับที่ทำให้ผมประสบความสำเร็จ โดยที่ผมต้องไม่ลืมที่จะทำการยืดหยุ่นร่างกาย 3 ถึง 4 ครั้งต่อสัปดาห์เพื่อรักษาสมรรถภาพของกล้ามเนื้อเอาไว้”
สิ่งที่ ลี สอนให้กับ อับดัล – จาบาร์ ทำให้เขากลายเป็นสุดยอดนักบาสเก็ตบอล ที่ทำคะแนนได้สูงสุดในประวัติศาสตร์กับลูกทีเด็ดอย่าง “สกายฮุก” เป็นการกระโดดให้สูงที่สุดยืดแขนให้ถึงที่สุดและโยนลูกบาสข้ามการบล็อก กว่าครึ่งหนึ่งของคะแนนที่ อับดุล – จาบาร์ ทำได้นั้นมาจากลูกทีเด็ดของเขาแทบทั้งนั้น “มันมีอะไรมากกว่านั้นที่ลีสอนผม เขาสอนให้รู้จักการจัดการกับพวก Hater หรือคนที่เกลียดชังเรา ผมทำได้ในเรื่องนั้น ผมเปลี่ยนเสียงที่ตะโกนเหยียดผมให้กลายมาเป็นเสียงที่ยอมรับในตัวผม ยอมรับความสามารถของผม เขาสอนให้ผมรู้จักการหลีกเลี่ยงการปะทะโดยไม่จำเป็น สิ่งเหล่านั้นได้หล่อหลอมมาจนเป็นตัวผมและทำให้ผมยิ่งใหญ่และได้รับการยอมรับเป็นอย่างมาก ”