
ฟุตบอลโลก กับ ฟุตบอลโอลิมปิก ต่างกันอย่างไร
ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า มหกรรมกีฬาที่ยิ่งที่สุดของมวลมนุษยชาติอย่าง โอลิมปิก เกมส์ (ฤดูร้อน) ก็จะเริ่มต้นขึ้น โดยครั้งนี้ ประเทศญี่ปุ่น รับหน้าสื่อเป็นเจ้าภาพ โดยทางฟากของผู้คนนับล้านต่างเฝ้ารอชมนักกีฬาของชาติตัวเอง รวมถึงกีฬาที่น่าสนใจ ซึ่งไมได้มีให้ดูบ่อยๆ อย่างไรเสียในการแข่งขันทุกๆครั้ง ผู้ชมจากทางบ้านย่อมเฝ้ารอการแข่งขันกีฬาฟุตบอล ที่นับเป็นกีฬาสากลที่ทุกชาติย่อมรู้จัก รวมถึงยังเป็นเหรียญใหญ่ในทัศนคติของใครหลายๆคน เพราะหากชาติไหนได้เหรียญทอง มันก็เสมือนกับการเป็นแชมป์โลก แต่กระนั้นการแข่งขันฟุตบอลโอลิมปิก เกมส์ กับ ฟุตบอลโลก มันต่างกันอย่างไร วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจกัน
ก่อนอื่นต้องกล่าวก่อนว่า โอลิมปิก เกมส์ ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1896 โดยแนวคิดในการจัดมาจากความต้องการที่จะรื้อฟื้นกีฬาของชาวกรีกโบราณให้กลับมาแข่งอีกครั้ง ซึ่งในการแข่งขันผู้จัด คือคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ส่วนการแข่งขันในทุกชนิดกีฬา ผู้ชนะจะได้รับเหรียญรางวัลพร้อมกับช่อดอกไม้ จากนั้นในการแข่งขันครั้งถัดมา ก็จะมีการบรรจุกีฬาสากลเข้ามาเรื่อยๆ จนกีฬาฟุตบอลถูกบรรจุใน โอลิมปิก เกมส์ ปี 1900 กระทั่งเวลาผ่านไป กีฬาฟุตบอลกลายเป็นลีกอาชีพและมีทัวร์นามเมนต์ให้ลงเตะมากมาย ทำให้ในปี 1992 คณะกรรมการโอลิมปิกสากล เปลี่ยนกฎให้ทุกชาติที่เข้าร่วมการแข่งขัน ต้องส่งนักกีฬาที่อายุนักต่ำกว่า 23 ปี ส่วนผู้เล่นอายุเกินสามารถใส่มาได้ 3 คน โดยกฎที่ว่ามานี้จะช่วยให้เยาวชนมีทัวร์นาเมนต์ระดับสูงให้ได้ลงเล่น ขณะเดียวกันหากเป็นฟุตบอลหญิง ยังไม่มีการบังคับใช้กฎนี้
สำหรับการมาแข่งขันฟุตบอลโอลิมปิก เกมส์ จะใช้การคัดเลือกจากทัวร์นาเมนต์ U-23 ชิงแชมป์ประจำทวีปต่างๆ ซึ่งในการแข่งขันครั้งนี้มีทีมเข้าร่วม 16 ทีม ผ่านการแบ่งกลุ่มทั้งหมด 4 สาย ส่วนโควตาของทวีปเอเชีย มี 3 ทีม คือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และซาอุดิอาระเบีย
ส่วนการแข่งขันฟุตบอลโลก มีเค้าโครงมาจากการแข่งขัน โคปา อเมริกา หรือฟุตบอลชิงแชมป์แห่งอเมริกาใต้ ที่เริ่มจัดมาตั้งแต่ปี 1916 ก่อนจะถูกพัฒนาและจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งแรกในปี 1930 โดยมีหน่วยงานหลัก คือ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า รับหน้าที่จัดการแข่งขัน โดยการจัดจะเว้นวรรคเหมือนกับ โอลิมปิก เกมส์ คือ ทุกๆ 4 ปี แต่จะเว้นให้ไม่ชนกัน ส่วนเรื่องของรางวัลสำหรับผู้ชนะจะเป็นถ้วยรางวัล
การแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งแรก มีทีมเข้าร่วม 12 ทีม ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นทีมในทวีปเดียวกับเจ้าภาพ เพราะด้วยปัจจัยการเดินทางที่ต้องมาทางเรือ กระทั่งการคมนาคมที่เจริญขึ้น ทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันก็มากตาม จนต้องมีการจัดรอบคัดเลือกในแต่ละทวีป โดยฟุตบอลโลก 2022 จะเป็นครั้งสุดท้ายที่มีทีมเข้าร่วมการแข่งขัน 32 ทีม เพราะนับตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2026 จะเพิ่มจำนวนทีมเข้าร่วมการแข่งขันเป็น 48 ทีม
นอกเสียจาก ฟีฟ่า จะเป็นองค์กรในการจัดการแข่งขันฟุตบอลระดับนานาชาติแล้ว พวกเขายังมีการทำงานร่วมกับ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล ด้วยการแบ่งทีมไปแข่งขันอย่างชัดเจน โดยการแข่งขันที่ฟีฟ่า ให้การรับรองทุกนัดจะมีคะแนนแรงกิ้ง ฉะนั้นยามใดที่มีเกมลงแข่ง ทุกชาติจะต้องส่งชุดใหญ่ที่ดีที่สุดมาแข่ง ส่วนในโอลิมปิก จะไม่มีการคิดคะแนนตรงนี้และ อีกทั้งยังเห็นร่วมกันว่าควรให้ตรงนี้เป็นเวทีสำหรับนักเตะเยาวชน แต่อย่างไรเสียหากชาติไหนอยากได้เหรียญทอง ก็ส่งตัวอายุไม่เกิน 23 ปี มา พร้อมกับหาตัวอายุเกิน 3 คน แบบเจ๋งที่สุดเท่าที่จะหาได้ ขณะเดียวกันถ้าใครไม่หวังเหรียญ แต่จะเอาทัวร์นาเมนต์นี้ไว้เตรียมทีมสำหรับฟุตบอลโลก ก็สามารถส่งทีม U-21 มายังได้
ฉะนั้นหากให้สรุปว่า ฟุตบอลโลก กับ ฟุตบอลโอลิมปิก ต่างกันอย่างไร ก็จะไล่ตั้งแต่องค์กรผู้จัดระหว่างฟีฟ่า กับ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล, การจำนวนอายุผู้เล่นกับการส่งอายุเท่าไรมาก็ได้, การคัดเลือกทีมเข้ามาแข่ง 16 กับ 32, การคิดคะแนนแรงกิ้ง กับ ไม่คิด รวมถึงรางวัลตอบแทนของผู้ชนะที่เป็นเหรียญรางวัลอย่างเดียว กับ ถ้วยและเหรียญ
ฟุตบอลโลก กับ ฟุตบอลโอลิมปิก ต่างกันอย่างไร
- รวมพลคนสอบตกในศึกยูโร 2020
- สรุปภาพรวม ทีมชาติสเปน ในศึกยูโร 2020
- ยูเว่ ประกาศไม่ขาย เดอ ลิกต์ พร้อมเตรียมทาบซีดานกลับถิ่น
- ยูฟ่า เตรียมยกเลิกกฎยิงประตูทีมเยือนฤดูกาลหน้า
.
.