
สุนิสา ลี เปิดใจ โดนคนแปลกหน้าเหยียดเชื้อชาติ แม้เพิ่งคว้าเหรียญทองโอลิมปิก
สุนิสา ลี (Sunisa Lee) นักยิมนาสติกสาวชาวสหรัฐอเมริกาเชื้อสายม้งได้ออกมาเปิดใจว่า การช่วยทีมชาติสหรัฐฯ คว้าเหรียญทอง โอลิมปิก 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา ไม่ได้ช่วยให้เธอรอดพ้นจากการโดนเพื่อนร่วมชาติบางคนเหยียดเชื้อชาติแม้แต่น้อย โดยเฉพาะนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นต้นมา ซึ่งเธอเคยถูกเหยียดถึงขั้นโดนไล่กลับประเทศที่เป็นถิ่นกำเนิด แถมยังถูกฉีดสเปรย์พริกไทยใส่อีกด้วย
สุนิสา ลี เผย เคยถูกคนแปลกหน้าฉีดสเปรย์พริกไทย พร้อมไล่กลับบ้านเกิด
สุนิสา ลี นักยิมนาสติกสาวทีมชาติสหรัฐอเมริกาเชื้อสายม้ง เจ้าของเหรียญทองยิมนาสติกประเภทบุคคลมรวมอุปกรณ์ใน โอลิมปิกเกม 2020 ได้ออกมาเปิดใจกับ ป๊อป ชูการ์ (Pop Sugar) สื่อดังของสหรัฐฯ ที่นำเสนอเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์และแฟชันของผู้หญิง เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาว่า การที่เธอสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศด้วยการคว้าเหรียญทองโอลิมปิก ไม่ได้ช่วยให้เธอรอดพ้นจากการถูกเพื่อนร่วมชาติบางคนเหยียดเชื้อชาติแต่อย่างใด โดยมีอยู่วันหนึ่งขณะที่เธอกำลังยืนรอรถอูเบอร์กับเพื่อน ๆ ที่เป็นคนเชื้อสายเอเชียเหมือนกันในนครลอสแอนเจลิส จู่ ๆ ก็มีรถคันหนึ่งมาจอดหน้าพวกเธอก่อนจะเปิดกระแจก แล้วก็มีคนแปลกหน้าตะโกนด่าทอเหยียดเชื้อชาติ พร้อมไล่ให้พวกเธอกลับไปประเทศบ้านเกิด ก่อนจะฉีดสเปอรย์พริกไทยใส่ แขนของ สุนิสา ลี แล้วขับรถหลบหนีไปหน้าตาเฉย
สุนิสา ลี เปิดใจ โดนคนแปลกหน้าเหยียดเชื้อชาติ
โดย นักยิมนาสติกสาววัย 18 ปี เผยว่า “ฉันรู้สึกโมโหมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย เพราะคนเหล่านั้นไม่เปิดเผยตัวตน บางครั้งการมีชื่อเสียงก็สร้างความลำบากให้เหมือนกัน เพราะฉันไม่อยากทำอะไรให้ตัวเองเดือดร้อน แต่ฉันก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้นอกจากปล่อยให้มันไป” แม้จะถูกคุกคามถึงขนาดนั้น แต่เธอก็ยอมรับว่าไม่กล้าไปแจ้งความ เนื่องจากอาจกลายเป็นชนวนปัญหาที่สร้างปัญหาให้เธอและครอบครัวมากกว่าเดิมได้
ขณะที่ วอชิงตัน โพสต์ สื่อชื่อก้องของสหรัฐฯ ได้ออกมาเปิดเผยว่า นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็มีรายงานว่า ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียนับพันคนถูกคุกคาม เหยียดเชื้อช้าติ หรือแม้แต่ทำร้ายร่างกาย แถมกระแสความเกลียดชังยังมุ่งเป้าไปที่ผู้หญิงมากกว่าผู้ชายอีกด้วย โดย องค์กรที่ต่อสู้กับอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังต่อคนอเมริกันเชื้อสายเอเชียและหมู่เกาะแปซิฟิก (Stop AAPI Hate) ได้ออกมาเปิดเผยว่า เหตุการณ์จากความเกลียดชังด้านเชื้อชาติต่อคนเชื้อสายเอเชียตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2020 เป็นต้นมา เกิดขึ้นมากกว่า 9,000 ครั้ง โดยมากกว่า 63% ของจำนวนนั้นเกิดกับ “ผู้หญิง”
- คาซัคสถาน ได้โชว์ฟอร์ม เอาชนะทับไทย 3-0 เกม
- ความชัดเจน ในการแข่งขัน ตะกร้อไทยแลนด์ลีก 64
- เปิดประวัติกีฬา ตะกร้อ กีฬาชื่อดังของประเทศไทย
- รวมพลคนสอบตกในศึกยูโร 2020
.