
กุนซือ”หงส์แดง”แย้ม“เซอร์ดาน ชากิรี่”ส่อหมดอนาคตกับทีมหงส์
นายใหญ่แห่งถิ่นแอนฟิลด์ เอ่ยปากแย้มว่า ดาวเตะทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ส่อหมดอนาคตกับสโมสรเสียแล้ว เจอร์เกน คลอปป์ กุนซือ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ยอมรับว่าไม่ค่อยอยากจะเอ่ยถึงเรื่องของอนาคตของ เซอร์ดาน ชากิรี่ กองกลางทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์เสียเท่าไรนัก หลังไม่มีส่วนร่วมกับทีมในศึกฟุตบอลคาราบาว คัพ รอบ 4 นัดที่แพ้ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ในช่วงดวลจุดโทษตัดสินคาบ้าน หลังเสมอกันในช่วงเวลาปกติ 90 นาทีแบบไร้สกอร์ 0-0 แม้จะไม่มีข่าวว่ามิดฟิลด์วัย 28 ปีมีปัญหาบาดเจ็บรบกวน แต่กลับหลุดโผไม่มีรายชื่อนั่งเป็นตัวสำรองเสียด้วยซ้ำ ทั้งๆ ที่มักจะได้รับโอกาสให้ลงสนามในรายการนี้อยู่เป็นประจำ
“ผมไม่อยากพูดถึงเรื่องอนาคตของเขาเลย เขาไม่ได้มีอาการบาดเจ็บ และไม่ได้ทำอะไรผิดเลยเสียด้วยซ้ำ แต่มันเป็นเรื่องที่ผมในฐานะผู้จัดการทีมได้รับข้อมูลบางอย่างมาแล้วก็ต้องตัดสินใจในบางเรื่องทันที”ทั้งนี้ ชากิรี่ ได้อยู่ค้าแข้งกับ “หงส์แดง” เข้าสู่ฤดูกาลที่ 3 แล้ว นับตั้งแต่ย้ายมาจาก “ช่างปั้นหม้อ” สโต๊ค ในปี 2018 ด้วยค่าฉีกสัญญา 13.5 ล้านปอนด์ แต่ยังคงเป็นเพียงแค่ตัวสำรองในแนวรุก เพราะเป็นตัวเลือกรองจาก 3 ประสานตัวจริง นั่นก็คือ โมฮาเม็ด ซาล่าห์ ดาวเตะทีมชาติอียิปต์, ซาดิโอ มาเน่ ปีกทีมชาติเซเนกัล และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ กองหน้าทีมชาติบราซิล จึงมีข่าวว่าอาจจะถูกต้นสังกัดขายทิ้งได้ตลอด เพื่อนำเงินไปใช้ซื้อผู้เล่นหน้าใหม่กันต่อไป ทว่า ลิเวอร์พูล ยังไม่ตัดสินใจปล่อยตัวออกจากถิ่นแอนฟิลด์เสียที
โดยในช่วงฤดูกาลใหม่ 2020/2021 เพิ่งได้รับโอกาสให้ลงเล่นเป็นตัวจริงไปแล้วหนึ่งนัด นั่นก็คือเกมที่บุกไปถล่ม ลินคอล์น 7-2 ในศึกคาราบาว คัพ รอบ 3 และยิงได้หนึ่งประตูด้วย ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ชากิรี่ เกือบจะได้ย้ายทีมตั้งแต่เมื่อช่วงฤดูกาลที่แล้ว เนื่องจาก เซบีย่า ได้เคยตั้งท่าพร้อมที่จะดึงมาร่วมทัพนั่นเอง แต่สุดท้ายเป็นเพียงแค่ข่าวลือตามหน้าสื่อเท่านั้น ทำให้มิดฟิลด์ชาวสวิสยังคงต้องจำใจนั่งเป็นตัวสำรองอยู่ในถิ่นแอนฟิลด์ต่อไป แม้จะได้รับโอกาสจาก คลอปป์ ให้ลงสนามในศึกฟุตบอลรายการต่างๆ อยู่เป็นประจำ แต่ดูเหมือนว่าตัวนักเตะจะไม่มีความสุขกับการค้าแข้งกับทีมต้นสังกัดปัจจุบันอยู่ดี เพราะว่าอยากจะได้ลงสนามเป็นตัวจริงแบบต่อเนื่อง โดยตอนนี้น่าจะกลายเป็นตัวเลือกอันดับท้ายๆ ในแนวรุกไปแล้วด้วย นับตั้งแต่ ทาคูมิ มินามิโนะ ดาวเตะทีมชาติญี่ปุ่นย้ายเข้ามาร่วมทัพนั่นเอง