
ได้ทีคุยโว”แบรน์ด เลโน่”ไม่เคยกลัว”มาร์ติเนซ”แย่งมือหนึ่ง
นายด่านทีมชาติเยอรมนีได้ทีคุยโวว่าไม่เคยกลัวอดีตมือสองแย่งชิงตำแหน่งตัวจริง “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล เลย แบรน์ด เลโน่ ผู้รักษาประตูทีมชาติเยอรมนีของ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ประกาศศักดาว่า ไม่เคยหวั่นใจว่าจะถูก เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ นายด่านชาวอาร์เจนไตน์แย่งชิงตำแหน่งมือหนึ่งแห่งถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เพราะเขาคือตัวจริงอยู่แล้วนั่นเอง และเพิ่งจะพิสูจน์ฝีมือให้ทุกคนได้เห็นถึงความหนึบจากการเซฟจุดโทษในศึกคาราบาว คัพ รอบ 4 นัดที่บุกไปเฉือน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ในช่วงดวลเป้าตัดสิน หลังเสมอกันในช่วงเวลาปกติ 90 นาทีแบบไร้สกอร์ 0-0 จึงไม่เคยรู้สึกกังวลเกี่ยวกับเรื่องของการยืนเฝ้าเสาให้ทีมต้นสังกัดปัจจุบันแม้แต่น้อย
“ผมบอกได้เลยว่าไม่เคยกลัวเลย เพราะสโมสรทำให้ผมรู้สึกมาเสมอว่าผมคือมือหนึ่ง ในตอนนี้ผมคือผู้รักษษประตูตัวจริงของสโมสร และในอดีตผมก็เป็นมือหนึ่ง ส่วนในอนาคตผมก็จะเป็นมือหนึ่งของทีมต่อไปด้วย เพราะสโมสรพร้อมให้การสนับสนุนผมเป็นอย่างดี นั่นคือเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากๆ ผมจึงมีหน้าที่เพียงแค่พิสูจน์ฝีมือในทุกเกมที่ลงสนาม และผมก็ได้แสดงให้ทุกคนได้เห็นไปแล้วด้วย”
ก่อนหน้านี้ เลโน่ ซึ่งย้ายมาจาก “ห้างขายยา” ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ในปี 2018 ได้รับบาดเจ็บตรงบริเวณหัวเข่าในช่วงท้ายฤดูกาลที่แล้ว จึงต้องพักรักษาตัวเป็นเวลานานหลายเดือน ทำให้ “ปืนใหญ่” ต้องเลื่อนชั้น มาร์ติเนซ จากตำแหน่งมือสองให้ขึ้นมายืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงแทน และสามารถโชว์ฟอร์มเซฟประตูได้แบบน่าประทับใจ โดยเฉพาะในศึกเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ นัดที่เฉือนชนะ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี 2-1 จึงมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยใบเก่าแก่ที่สุดของเกาะอังกฤษมาครองได้สำเร็จ ทำให้กองเชียร์ “ปืนใหญ่” เริ่มส่งเสียงเชียร์ให้ มาร์ติเนซ ยึดตำแหน่งตัวจริงแบบถาวรไปเลย หลังอดทนนั่งเป็นตัวสำรองมานานถึง 8 ปีแล้ว นับตั้งแต่ตอนที่ได้เลื่อนชั้นจากทีมเยาวชนขึ้นมาอยู่กับชุดใหญ่ในปี 2012
อย่างไรก็ตาม มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีม อาร์เซนอล ยังคงไว้วางใจในฝีมือของ เลโน่ จึงให้สวมบทเป็นมือหนึ่งในฤดูกาล 2020/2021 เพราะหายจากอาการบาดเจ็บเรียบร้อยแล้ว และตัดสินใจปล่อยนายด่านชาวอาร์เจนไตน์ย้ายไปเฝ้าเสาให้ “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลล่า ด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นไปตามคำเรียกร้องของนายทวารวัย 28 ปีที่อยากจะย้ายออกจากถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เพื่อโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงแบบต่อเนื่องนั่นเอง