
7 สุดยอดนักเทควันโดหญิงในตำนานทีมชาติไทย
ต้องยอมรับว่านักกีฬาทีมชาติไทยส่วนมาก มักจะเป็นเด็กในโซนเมืองหลวงส่วนมาก เนื่องจากการซ้อม โปรแกรมต่างๆ ยังต้องซ้อมอยู่ที่กรุงเทพมหานคร เพื่อสะดวกต่อการไปกลับในแต่ละสถานที่ ไม่ว่าจะเรียน กลับบ้าน ไปซ้อม ซึ่งกว่าจะถึงจุดนี้มันไม่ง่ายเลยที่จะยืนอยู่ในจุดสูงสุดได้ ในบทความนี้จะเป็นบทความสุดยอดจอมเตะหญิงทีมชาติที่สร้างชื่อเสียง ทำให้วงการเทควันโดกลับมากระหึ่มอีกครั้ง
วิว เยาวภา บุรพลชัย : ถึงแม้จะเป็นคุณแม่ลูก 4 พ่วงกับอายุอานามเข้าปีที่ 36 แล้วก็ตาม แต่ก็เป็นอีกคนที่กาลเวลาทำอะไรกับความหน้าเด็กไม่ลงจริงๆ ซึ่งเธอเองเริ่มเล่นตอนอายุ 15 ปี มีผลงานแรกจากการคว้าเหรียญเงินรายการเอเชียนเกมส์ “Busan 2002” ที่ประเทศเกาหลีใต้ เหรียญทองซีเกมส์ “Vietnam 2003” เหรียญเงินกีฬามหาวิทยาลัยโลก Universiade 2005 ที่ประเทศตุรกี แต่ผลงานที่กระหึ่มที่สุดจากการประเดิมเหรียญแรกในโอลิมปิก จากการได้เหรียญทองแดงโอลิมปิกเกมส์ “Athens 2004” ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ในรุ่น 47-51 กิโลกรัมหญิงอีกด้วย
สอง บุตรี เผือดผ่อง : ต้องบอกก่อนว่าก่อนจะเข้ามาเล่นเทควันโด เธอมีโรคประจำตัวคือโรคหอบหืดมาก่อน แต่หายได้จากการเล่นกีฬาจริงๆ อีกทั้งเธอได้รับแรงบันดาลใจจากพี่สาวของเธอที่เป็นนักเทควันโดทีมชาติเช่นกัน ซึ่งเธอเริ่มเล่นตั้งแต่อายุ 11 ปี ผลงานของเธอสร้างชื่อเสียงมาหลายรายการระดับเยาวชนในบ้านเราจนเรียกเธอว่า “จอมเตะไร้พ่าย” ผลงานที่เป็นที่ประจักษ์จากการคว้าเหรียญทองในรายการซีเกมส์ “Nakhon Ratchasima 2007” ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ และการคว้าเหรียญเงินจากการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ “Beijing 2008” กรุงปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ในรุ่น 49 กิโลกรัมหญิง ทำให้วงการเทควันโดยกมาตรฐานการกีฬาสูงขึ้นอีกครั้งจากการคว้าเหรียญรางวัลเพิ่มให้กับประเทศไทยอีกด้วย ปัจตุบันได้แต่งงานกับเป็นเอก การะเกตุ นักเทควันโดทีมชาติไทยเช่นเดียวกัน
จูน วรวงษ์ พงษ์พานิช : เรียกได้ว่าเป็นอีกจอมเตะที่เป็นจอมเตะสู้ชีวิต มุมานะตั้งแต่อายุน้อยอย่างมาก เธอเล่นตั้งแต่อายุ 4 ขวบ เป็นนักกีฬาหญิงจากสุราษฎร์ธานี จึงค่อนข้างไปมาลำบากพอสมควรเวลาไปกลับ ทั้งเรียน ทั้งซ้อม เป็นนักกีฬาอีกคนที่สร้างผลงานในระดับเยาวชน ถึงแม้ว่าเธอไม่ได้คว้าเหรียญรางวัลในโอลิมปิกผู้ใหญ่เหมือนคนอื่นๆ แต่เธอคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์ในโอลิมปิกเยาวชน (Youth Olympics Games) จากยูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 1 “Singapore 2010” ในรุ่น 49 กิโลกรัมหญิง เธอจึงเป็นคนแรกที่ปลดล็อกผลงานเหรียญรางวัลได้เป็นคนแรกในรายการนี้
จูน รังสิญา นิสัยสม : ถ้าเรียก “จูนเล็ก” ต้องนึกถึง “จูน วรวงษ์” แต่ถ้า “จูน รังสิญา” ต้องเรียกว่า “จูนใหญ่” เนื่องจากทั้งสองติดทีมชาติ ซ้อมมาด้วยกัน และดังตีคู่กันมาก ต้องบอกก่อนว่าเป็นนักกีฬาอีกคนที่เจ็บมาเยอะจากการแข่งขันพอสมควร ลบคำสบประมาท คำดูถูกด้วยฝีมือและความสามารถที่แท้จริง จากการคว้าเหรียญทองเหรียญแรกในประวัติศาสตร์จากการแข่งขันเทควันโดชิงแชมป์โลกปี 2011 ที่เมืองกวังจู ประเทศเกาหลีใต้ ในรุ่น 62 กิโลกรัมหญิง ด้วยวัยเพียง 17 ปีเท่านั้น นับตั้งแต่ส่งแข่งขันชิงแชมป์โลกในรอบ 32 ปี ปัจจุบันเปิดยิมของตนเองชื่อว่า Rangsiya Gym ที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
หยิน สริตา ผ่องศรี : เป็นอีกหนึ่งนักกีฬาหญิงที่ปลดล็อกจากการคว้าเหรียญทองเอเชียนเกมส์ “Guangzhou 2010” ที่นครกวางโจว ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เจ้าของแชมป์ซีเกมส์ 3 สมัย (ปี 2009, 2011 และ 2013) และเหรียญเงินจากการแข่งขันเทควันโดชิงแชมป์โลก 2009 กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ในรุ่น 53 กิโลกรัมหญิงเช่นกัน เธอเริ่มเล่นตั้งแต่อายุ 6 ขวบ และสร้างผลงานในระดับเยาวชนมาหลายรายการ เรียกได้ว่ากวาดทุกแมทช์ที่ส่งไปก็ว่าได้ กว่าเธอจะเป็นอีกตำนาน เธอเคยได้รับการผ่าตัดเอ็นไขว้หน้าที่เข่าข้างขวา แล้วต้องพักฟื้นเป็นเวลายาวนานกว่าจะกลับมาซ้อมได้ และไม่มีผลงานระดับเยาวชนในระดับนานาชาติ เธอจึงเป็นจอมเตะม้ามืด และติดในชุดใหญ่ 3 ครั้ง แต่เธอก็ทำผลงานกลับมาทุกครั้ง แม้ว่าจะเลิกเล่นไปแล้ว ปัจจุบันเป็นโค้ชให้ทีมมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เคยจบการศึกษา และดูแลทีมนี้อย่างต่อเนื่อง
เล็ก ชนาธิป ซ้อนขำ : เป็นคนจังหวัดพัทลุง และเป็นน้องเล็กสมชื่อของบ้าน ต้องยอมรับว่าไปไหนมาไหน คนนี้หัวกระไดไม่เคยแห้ง เพราะเป็นนักกีฬาหญิงที่มีเสน่ห์มากจากรายการ “ใครคือใคร Identity 2015” แต่เธอก็เป็นนักกีฬาหญิงที่ฝีมือดีมากอีกคนหนึ่งที่ควรเป็นตำนาน เพราะว่าเธอมีผลงานระดับเยาวชนในเวทีนานาชาติเยอะมาก เคยคว้าเหรียญทองแดงจากการแข่งขันเอเชียนเกมส์ 2010 (ปีเดียวกันที่หยิน สริตาคว้าเหรียญทอง) เหรียญทองแดงจากการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ “London 2012”, เหรียญทองจากเทควันโดชิงแชมป์โลก 2013 ที่เมืองพูเอบลา ประเทศเม็กซิโก, เหรียญทองจากการแข่งขันเอเชียนเกมส์ “Incheon 2014” ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ ในรุ่น 49 กิโลกรัมหญิง และยังคว้าเหรียญทองแดงจากกีฬามหาวิทยาลัยโลก “Universiade 2009” ที่เมืองเบลเกรด ประเทศเซอร์เบีย กับเหรียญทองกีฬามหาวิทยาลัยโลก “Universiade 2015” ที่เมืองกวังจู ประเทศเกาหลีใต้ นอกจากนี้ยังได้เหรียญรางวัลในรายการ World Grand Prix เพื่อเก็บคะแนนสะสมอันดับโลก และเธอยังติด 1 ใน 5 ของโลกอีกด้วย
เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ : จากดีกรีเหรียญทองโอลิมปิกเยาวชน “Nanking 2014” เมือนนานกิง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นตัวยืนยันว่าเธอคือตัวเต็งแชมป์โอลิมปิก (เธอกวาดเหรียญทองเทควันโดชิงแชมป์โลก 2 สมัย และกีฬามหาวิทยาลัยโลก 2 ปีซ้อน) แล้ว เป็นอีกจอมเตะที่สร้างตำนานไร้พ่ายและเป็นอันดับ 1 ของโลกจากการจัดอันดับ World Ranking ที่สามารถเอาชนะตัวเต็งอย่าง Wu Jing Yu จากจีนในการแข่งขัน Wuxi Grandslam ล่าสุด โดยปกติแล้วเป็นนักกีฬาหญิงที่น้อยคนนักที่จะได้ไปโอลิมปิกครั้งที่ 2 ของตนเอง หรือไปไม่ถึงฝันที่จะแก้มือเนื่องจากการบาดเจ็บ แต่เธอเป็นคนเดียวที่สามารถไปโอลิมปิกถึง 2 ครั้ง (โอลิมปิกเกมส์ “Rio 2016” และได้โควตาไปโอลิมปิกเกมส์ “Tokyo 2020” ด้วย) ซึ่งเป็นนักกีฬาความหวังของประเทศไทยอีกคนที่ใครๆ อยากเห็นเธอขึ้นแท่นรับเหรียญทองจากโอลิมปิกครั้งที่ 2 อย่างมาก จุดเด่นของเธอคือรูปร่างสูงโปร่ง ไหวพริบดี บวกกับแก้เกมตามที่โค้ชเชแนะนำได้ดีเยี่ยม เธอจึงเป็นนักกีฬาที่ใครๆ หลายคนทั่วโลกประมาทเธอไม่ได้เลยทีเดียว